คุณสมบัติที่สายการบิน Riyadh Air มองหาในผู้สมัครลูกเรือ

คุณสมบัติที่สายการบิน Riyadh Air มองหาในผู้สมัครลูกเรือ
สายการบิน Riyadh Air กำหนดคุณสมบัติพื้นฐานสำหรับผู้ที่จะสมัครตำแหน่งลูกเรือไว้ค่อนข้างชัดเจน ดังนี้:
อายุ: ผู้สมัครต้องมีอายุอย่างน้อย 21 ปีบริบูรณ์ (ไม่มีการจำกัดอายุสูงสุดที่ระบุ แต่ช่วงอายุของผู้ถูกจ้างใหม่มักอยู่ระหว่าง 21-35 ปี โดยสิ่งที่สำคัญคือสุขภาพและบุคลิกภาพที่พร้อมทำงานได้อย่างมืออาชีพ)
การศึกษา: จบการศึกษาระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย (High School) หรือสูงกว่า
ทักษะภาษา: สื่อสารภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว (เป็นภาษาหลักบนเครื่องบิน) หากมีความสามารถทางภาษาอื่น ๆ เช่น ภาษาอาหรับ ฝรั่งเศส สเปน จีนกลาง จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ
ความสูงและการเอื้อมแตะ: ความสูงไม่น้อยกว่า 160 ซม. และสามารถเอื้อมแตะได้สูง 212 ซม. (ปลายเท้าแตะพื้น) เพื่อให้เอื้อมถึงอุปกรณ์ฉุกเฉินและช่องเก็บของเหนือศีรษะบนเครื่องได้อย่างปลอดภัย(หมายเหตุ: สายการบินเปิดรับสมัครทั้งเพศชายและหญิง โดยไม่ได้จำกัดเพศ ผู้ชายที่สูงเกิน 160 ซม. ก็สมัครได้เช่นกัน)
ทักษะการว่ายน้ำ: ว่ายน้ำได้ อย่างมั่นใจ โดยใช้เสื้อชูชีพ เป็น เพื่อความปลอดภัยในกรณีเหตุฉุกเฉินทางน้ำ
ลักษณะทางกายภาพ: มีรูปลักษณ์ที่ดูเป็นมืออาชีพ สุขภาพแข็งแรง ไม่มีรอยสักหรือการเจาะตามร่างกายที่มองเห็นได้ขณะสวมเครื่องแบบ (หากมีรอยสักต้องสามารถปกปิดได้มิดชิดเมื่อใส่ชุดยูนิฟอร์ม) และควรรักษารูปร่างให้สมส่วนและมีความคล่องตัวเพื่อปฏิบัติงานบนเครื่องได้อย่างกระฉับกระเฉง
บุคลิกภาพและทัศนคติ: รักงานบริการและการช่วยเหลือผู้อื่น มีมนุษยสัมพันธ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส มีความกระตือรือร้นและปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมที่หลากหลายได้ดี ทั้งยังต้องสามารถทำงานเป็นทีมร่วมกับผู้อื่นได้อย่างราบรื่น รวมถึงมีความยืดหยุ่นพร้อมรับประสบการณ์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ ผู้สมัครที่มี ทัศนคติเชิงบวก และสามารถรักษาความสุภาพอ่อนโยนภายใต้ความกดดันจะโดดเด่นเป็นพิเศษ
ประสบการณ์การทำงาน: มีประสบการณ์อย่างน้อย 1 ปี ในงานบริการลูกค้า หรืองานต้อนรับ/hospitality เช่น งานโรงแรม งานร้านอาหาร พนักงานต้อนรับ เป็นต้น ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าผู้สมัครคุ้นเคยกับการดูแลลูกค้าและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในงานบริการ (หากเคยมีประสบการณ์เป็นลูกเรือสายการบินมาก่อนจะนับเป็นข้อได้เปรียบเพิ่มเติมในการพิจารณา)
อื่น ๆ: สามารถขอวีซ่าทำงานประเทศซาอุดีอาระเบียได้ (ไม่มีประวัติต้องห้ามที่ขัดต่อการขอวีซ่า) และ ยินดีที่จะย้ายถิ่นฐานมาประจำที่กรุงริยาดห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นฐานปฏิบัติงานของสายการบินโดยทางสายการบินจะพิจารณาคุณสมบัติข้อนี้ควบคู่ไปกับขั้นตอนรับวีซ่า KSA ของผู้ผ่านการคัดเลือก
คุณสมบัติข้างต้นเป็นเกณฑ์ขั้นต่ำที่ผู้สมัครควรมี เพื่อให้ผ่านการคัดกรองเบื้องต้น นอกจากนี้ Riyadh Air ยังเน้นหาบุคลากรที่มีความ รักในงานบริการ (service-minded) และ ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เพราะลูกเรือจะเป็นผู้ดูแลสร้างความประทับใจและความปลอดภัยให้ผู้โดยสารตลอดการเดินทาง หากผู้สมัครมีคุณสมบัติครบถ้วนและมีใจรักสายงานนี้ ก็เตรียมความพร้อมเข้าสู่ขั้นตอนการสมัครได้เลย
ขั้นตอนการสมัครงานตำแหน่ง Cabin Crew กับ Riyadh Air
การสมัครงานลูกเรือของ Riyadh Air ดำเนินการผ่านระบบออนไลน์เป็นหลัก โดยผู้สมัครสามารถสมัครได้จากทุกประเทศที่สายการบินเปิดรับ (รวมถึงประเทศไทย) ตามขั้นตอนดังนี้:
สมัครออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ทางการ: เข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ Riyadh Air Careers เลือกหมวด Cabin Crew แล้วกดปุ่ม Apply เพื่อเข้าสู่หน้าการสมัครงานตำแหน่ง Cabin Crew จากนั้นผู้สมัครจะต้อง ลงทะเบียนสร้างบัญชีผู้สมัครกับระบบ (ควรจดจำ Username/Password ไว้) เพื่อจะได้กรอกใบสมัครออนไลน์ต่อไป
กรอกใบสมัครและอัปโหลดเอกสาร: ระบบใบสมัครออนไลน์ของ Riyadh Air จะแบ่งฟอร์มออกเป็นส่วน ๆ ได้แก่
(1) Personal Information ให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคลและประวัติพื้นฐาน,
(2) Qualifications/Background ให้กรอกรายละเอียดคุณวุฒิการศึกษา ประสบการณ์ทำงาน และคุณสมบัติต่าง ๆ และ
(3) Documents สำหรับอัปโหลดเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการสมัคร เช่น เรซูเม่/CV (แนะนำให้จัดทำเป็นไฟล์ Word/PDF ที่ดูเป็นมืออาชีพและเป็นมิตรกับระบบ ATS) นอกจากนี้อาจมีส่วน Talent Community ให้กรอกเพิ่มเติมในระบบด้วย เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนและตรวจสอบความถูกต้องแล้ว ให้กด Submit เพื่อส่งใบสมัครผ่านระบบออนไลน์ของสายการบิน
ยืนยันการสมัครและติดตามผล: หลังส่งใบสมัคร ผู้สมัครควรได้รับอีเมลยืนยันหรือเลขอ้างอิงการสมัครจากระบบ ควรบันทึก/พิมพ์หลักฐานการสมัครเก็บไว้จากนั้นกระบวนการคัดกรองใบสมัครจะดำเนินการโดยทีมสรรหาของ Riyadh Air โดย หากผู้สมัครมีคุณสมบัติเหมาะสมตามที่สายการบินต้องการ และเอกสารครบถ้วนถูกต้อง จะได้รับการติดต่อกลับ ทางอีเมลเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป (เช่น การทดสอบออนไลน์หรือการนัดหมายสัมภาษณ์) ทั้งนี้ หากข้อมูลในใบสมัครมีข้อผิดพลาดหรือขาดเอกสารสำคัญ อาจไม่ได้รับการติดต่อ ดังนั้นควรกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนและถูกต้องตั้งแต่แรก
ทั้งนี้ Riyadh Air ไม่มีการเปิดรับสมัครแบบ Walk-in (เปิดรับทั่วไป) โดยตรง แต่จะใช้ระบบ Invite Only กล่าวคือ ผู้ที่ผ่านการคัดกรองใบสมัครออนไลน์เท่านั้นจึงจะได้รับเชิญให้เข้าร่วมกิจกรรม Assessment/Interview ในเมืองต่าง ๆ ที่สายการบินกำหนดไว้ เช่น กรุงเทพฯ (ประเทศไทย), มะนิลา (ฟิลิปปินส์), ริยาดห์ (ซาอุฯ), โซล (เกาหลีใต้) ฯลฯ ดังนั้นผู้สนใจทุกคนจำเป็นต้องส่งใบสมัครออนไลน์ล่วงหน้าและรอการตอบรับ ไม่มีการเปิดให้ไปยื่นเอกสารหน้างานโดยไม่ได้รับเชิญ
สำหรับผู้สมัครชาวไทย ก่อนหน้านี้ในปี 2025 ทาง กรมการจัดหางานของไทย ได้ประสานกับ Riyadh Air ในการเปิดรับสมัครลูกเรือสัญชาติไทยจำนวน 100 อัตรา โดยมอบหมายให้บริษัท Thai SmartLynx (สายการบินเช่าเหมาลำที่ร่วมจัดหา) เป็นผู้รวบรวมใบสมัคร ผ่านการส่งอีเมลพร้อมเอกสาร เช่น เรซูเม่และรูปถ่ายขนาด 4x6 นิ้ว ไปยังอีเมลที่กำหนด ภายในเวลาที่ประกาศ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ช่องทางหลักในการสมัคร คือการสมัครผ่านเว็บไซต์ทางการของ Riyadh Air ตามขั้นตอนข้างต้น ซึ่งสะดวกและเข้าถึงได้จากทุกที่ โดยผู้สมัครชาวไทยสามารถใช้ช่องทางนี้ได้เช่นเดียวกับชาติอื่น ๆ (หากมีการรับสมัครผ่านกรมแรงงานอีกในอนาคต ทางกรมจะแจ้งประกาศอย่างเป็นทางการ แต่แนะนำให้ดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ของสายการบินเป็นหลัก)
คำแนะนำ: ในขั้นตอนการสมัครออนไลน์ ควรเตรียมข้อมูลและเอกสารให้พร้อม เช่น ไฟล์เรซูเม่/CV ที่ปรับแต่งให้ตรงกับสายงานบริการและมีคำสำคัญ (keywords) ที่ระบบ ATS อาจค้นหา, รูปถ่ายบุคคล แบบสุภาพ (ขนาดตามที่สายการบินกำหนดหากมี) รวมถึง สำเนาหนังสือเดินทาง หรือเอกสารส่วนบุคคลเผื่อจำเป็นต้องแนบ นอกจากนี้ให้ใช้อีเมลและเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้จริงและสะดวก อย่าลืมตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทุกส่วนก่อนกดส่ง เพราะหลังส่งแล้วจะไม่สามารถย้อนกลับมาแก้ไขใบสมัครได้อีก หากกรอกข้อมูลผิดหรือไม่ครบถ้วน อาจทำให้พลาดโอกาสได้รับการติดต่อเชิญสัมภาษณ์
ขั้นตอนและลักษณะของการสัมภาษณ์ลูกเรือ Riyadh Air
กระบวนการคัดเลือกผู้สมัครลูกเรือของ Riyadh Air จะประกอบด้วย หลายขั้นตอน โดยมีทั้งการประเมินออนไลน์และการสัมภาษณ์แบบเจอตัวจริง เพื่อพิจารณาความเหมาะสมของผู้สมัครในด้านทักษะการบริการ ความปลอดภัย การทำงานเป็นทีม และการปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมขององค์ก โดยภาพรวมขั้นตอนการคัดเลือกสามารถสรุปได้ดังนี้:
การประเมินออนไลน์ (Online Assessment / Video Interview): หลังจากผ่านการคัดกรองใบสมัคร ผู้สมัครจะได้รับอีเมลเชิญให้ทำแบบทดสอบและสัมภาษณ์เบื้องต้นผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งมักประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่
(1) Cabin Crew Immersive Experience แบบทดสอบสถานการณ์จำลองการทำงานบนเครื่องบิน,
(2) English Speaking Assessment การตอบคำถามภาษาอังกฤษผ่านการอัดวิดีโอ/เสียง, และ
(3) Listening Comprehension การทดสอบความเข้าใจภาษาอังกฤษจากการฟัง แต่ละส่วนมีรายละเอียดดังนี้:
Cabin Crew Immersive Experience: ใช้เวลาประมาณ 10 นาที มีคำถามสถานการณ์ให้ตอบประมาณ 8 ข้อ โดยระบบจะจำลองเหตุการณ์จริงบนไฟลท์ Riyadh Air ผ่านวิดีโอ Avatar ของลูกเรือที่โต้ตอบกับเรา จากนั้นผู้สมัครต้อง เลือกคำตอบที่เหมาะสม หรือ บันทึกเสียงตอบ ตามที่คำถามกำหนด (ขึ้นอยู่กับแต่ละข้อ) ยกตัวอย่างสถานการณ์เช่น ผู้โดยสารต้องการจ่ายค่าสินค้าด้วย e-wallet ที่สายการบินยังไม่รองรับ ผู้สมัครต้องเลือกวิธีสื่อสารตอบผู้โดยสารอย่างสุภาพและแสดงถึงการเอาใจใส่ (empathy) มากที่สุด เป็นต้น แบบทดสอบส่วนนี้ออกแบบมาเพื่อวัดทักษะด้าน การตัดสินใจแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การรักษาความเป็นมืออาชีพ ความเห็นอกเห็นใจลูกค้า และแนวคิดด้านการบริการ ของผู้สมัครในสถานการณ์ใกล้เคียงความจริง
English Speaking Assessment: เป็นการสัมภาษณ์ผ่านวิดีโอแบบสั้น ๆ ใช้เวลาประมาณ 6 นาที ระบบจะให้คำถามมา เช่น Why are you the perfect candidate for this role? (ทำไมคุณถึงเหมาะสมกับงานนี้) จากนั้นเปิดโอกาสให้ผู้สมัคร พูดตอบเป็นภาษาอังกฤษ บันทึกลงในระบบภายในเวลา 2 นาที จุดประสงค์คือวัดความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ ความชัดเจนในการพูด โครงสร้างในการตอบคำถาม และการแสดงบุคลิกภาพผ่านการพูด ผู้สมัครควรตอบให้ครอบคลุมประเด็น แสดงความมั่นใจและตัวตนที่เป็นมิตรน่าประทับใจ
Listening Comprehension: แบบทดสอบความเข้าใจภาษาอังกฤษจากการฟัง ระดับ Upper-Intermediate ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ผู้สมัครจะได้ฟังไฟล์เสียงภาษาอังกฤษ (เช่น บทสนทนาหรือประกาศบนเครื่อง) จากนั้นตอบคำถามแบบปรนัย (Multiple Choice) เกี่ยวกับเนื้อหาที่ฟัง เพื่อวัดทักษะการจับใจความและรายละเอียดในการฟังภาษาอังกฤษของผู้สมัคร
ผู้สมัครควรจัดสรรเวลาสำหรับทำแบบทดสอบออนไลน์ทั้ง 3 ส่วนนี้ให้ครบภายในเวลาที่กำหนด (มักจะต้องทำให้เสร็จภายใน 5-7 วันหลังได้รับคำเชิญ) และตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต กล้อง ไมโครโฟน ให้พร้อมก่อนเริ่มทำ เพราะหากอินเทอร์เน็ตขัดข้องระหว่างทำ อาจส่งผลต่อการบันทึกผลการทดสอบได้
หมายเหตุ: แบบทดสอบออนไลน์นี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการสัมภาษณ์เบื้องต้น ดังนั้นควรเตรียมตัวให้ดีไม่ต่างจากการสัมภาษณ์งานจริง เช่น แต่งกายสุภาพในวิดีโอ, เลือกสถานที่เงียบสงบแสงสว่างเพียงพอในการอัดวิดีโอ, และซ้อมตอบคำถามล่วงหน้าเพื่อไม่ตื่นเต้นจนเกินไป
วันประเมินและสัมภาษณ์ (Assessment Day): ผู้สมัครที่ผ่านการประเมินออนไลน์ จะได้รับ คำเชิญให้เข้าร่วมกิจกรรม Assessment Day/Interview Day ซึ่ง Riyadh Air จะจัดขึ้นตามเมืองศูนย์กลางต่าง ๆ (สำหรับผู้สมัครไทย สายการบินเคยจัดที่กรุงเทพฯ) ในวันดังกล่าวจะมีกรรมการและทีมงานสรรหาของ Riyadh Air มาดำเนินกระบวนการคัดเลือกแบบพบตัวจริง โดยขั้นตอนในวัน
Assessment อาจประกอบด้วย:
การตรวจเอกสารและวัดส่วนสูง/เอื้อมแตะ: เมื่อมาถึงสถานที่ ผู้สมัครทุกคนจะต้องลงทะเบียน ตรวจสอบเอกสารตัวจริง (เช่น พาสปอร์ต วุฒิการศึกษา) และทำ การวัดความสูงและความสามารถในการเอื้อมแตะ เพื่อยืนยันว่าผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ (160 ซม. และเอื้อมถึง 212 ซม.) รวมถึง การตรวจรูปลักษณ์ (Grooming Check)เบื้องต้น เช่น การแต่งกาย ทรงผม การแต่งหน้า สำหรับคุณผู้หญิง เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานภาพลักษณ์ของลูกเรือสายการบิน ผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ส่วนสูงหรือมีรอยสักเห็นชัดอาจไม่ผ่านจากจุดนี้
การสัมภาษณ์กลุ่ม (Group Exercise/Discussion): ผู้สมัครจะถูกจัดเป็นกลุ่มย่อยและทำกิจกรรมหรืออภิปรายกลุ่มร่วมกัน เพื่อให้กรรมการประเมินทักษะการสื่อสาร การทำงานเป็นทีม ความเป็นผู้นำและการมีปฏิภาณไหวพริบในสถานการณ์ที่กำหนด เช่น อาจให้จำลองสถานการณ์บนเครื่องบินแล้วช่วยกันแก้ปัญหา หรืออภิปรายหัวข้อบริการลูกค้า เมื่อเสร็จกิจกรรมอาจมีการประกาศรายชื่อผู้ผ่านเข้าสู่รอบถัดไปทันที
การทดสอบทางภาษาและความรู้ (เพิ่มเติม): ในบางกรณี สายการบินอาจมี แบบทดสอบข้อเขียนสั้น ๆ เพื่อวัดระดับภาษาอังกฤษเพิ่มเติม หรือทดสอบความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับความปลอดภัยในการบิน/หน้าที่ลูกเรือ อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก Riyadh Air ได้ทดสอบภาษาไปแล้วในรอบออนไลน์ ในวัน Assessment จริงอาจเน้นที่การสังเกตทักษะการปฏิบัติงานและบุคลิกภาพมากกว่า
การสัมภาษณ์เดี่ยวตัวต่อตัว (One-to-One Interview): เป็นรอบสุดท้ายที่สำคัญ โดยผู้สมัครจะเข้าสัมภาษณ์เดี่ยวต่อหน้ากรรมการ (มักมี 2 คนขึ้นไป) ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ในการถามตอบเชิงลึก เกี่ยวกับประสบการณ์การทำงานด้านบริการของผู้สมัคร (เช่น เคยรับมือกับลูกค้าที่ไม่พอใจอย่างไร, เคยทำงานเป็นทีมแก้ปัญหาอะไรบ้าง), ความรู้ด้านความปลอดภัย (เช่น จะทำอย่างไรหากเกิดเหตุฉุกเฉินบนเครื่อง) ตลอดจน แรงจูงใจและความรู้เกี่ยวกับ Riyadh Air (เช่น ทำไมถึงอยากร่วมงานกับ Riyadh Air, รู้จักค่านิยมของสายการบินเพียงใด) ผู้สมัครควรตอบอย่างจริงใจตามประสบการณ์ของตน โดยใช้หลัก STAR (Situation, Task, Action, Result) ในการเล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ จะช่วยให้คำตอบกระชับและมีน้ำหนัก นอกจากนี้กรรมการจะสังเกต บุคลิกภาพ มารยาทในการตอบคำถาม ทัศนคติต่องานบริการ และความกระตือรือร้น ของผู้สมัครด้วย ผู้ที่แสดงออกถึงความเป็นมิตร มีใจรักบริการ และเข้าใจวัฒนธรรมของสายการบินจะมีโอกาสได้ไปต่อ
ขั้นตอนสุดท้ายและการแจ้งผล: หลังเสร็จสิ้นวัน Assessment แล้ว ทางทีมรับสมัครจะทำการรวมคะแนนและประเมินผู้สมัครแต่ละคนอย่างรอบด้าน โดย ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกขั้นสุดท้าย จะได้รับการติดต่อกลับ (ทางอีเมลหรือโทรศัพท์) เพื่อดำเนินการ ตรวจร่างกาย (Medical Check) กับแพทย์ที่ได้รับการรับรอง รวมถึงตรวจสอบประวัติอาชญากรรม/ตรวจสอบประวัติส่วนตัวตามมาตรฐาน ก่อนที่จะได้รับ จดหมายเสนอการจ้างงาน (Job Offer) อย่างเป็นทางการ ในจดหมายจะแจ้งรายละเอียด เงินเดือน สวัสดิการ วันเริ่มงาน และขั้นตอนการจัดทำวีซ่าทำงานให้ผู้ผ่านคัดเลือก ซึ่งทาง Riyadh Air จะช่วยสนับสนุนในเรื่องการย้ายถิ่นฐานมาประจำที่ริยาดห์ (เช่น อาจจัดตั๋วเครื่องบินเที่ยวบินขาไปให้ และเตรียมที่พักให้อยู่แล้ว) จากนั้นผู้ผ่านคัดเลือกจะเข้าสู่กระบวนการฝึกอบรมลูกเรือใหม่ต่อไป (ใช้เวลาประมาณ 7-9 สัปดาห์ ที่ Riyadh Air Training Academy ในริยาดห์ ตามหลักสูตรความปลอดภัย บริการ และมาตรฐานสายการบิน)
ทั้งนี้ กระบวนการคัดเลือกทั้งหมดตั้งแต่เริ่มสมัครจนถึงได้รับข้อเสนออาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ถึงเป็นเดือน ผู้สมัครควรอดทนรอการติดต่อและสามารถส่งอีเมลสอบถามความคืบหน้าอย่างสุภาพได้หากเลยกำหนดที่สายการบินแจ้งไว้ สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับการคัดเลือก Riyadh Air อนุญาตให้สมัครใหม่ได้อีก หลังจาก 6 เดือน (ควรใช้ช่วงเวลานั้นในการพัฒนาตนเองเพิ่มเติม เช่น เพิ่มพูนประสบการณ์งานบริการหรือเรียนรู้ภาษาที่สาม
เคล็ดลับการเตรียมตัวเพื่อเพิ่มโอกาสผ่านการคัดเลือก
การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้สมัคร โดดเด่นกว่าใคร ในกระบวนการคัดเลือกลูกเรือ ต่อไปนี้คือเคล็ดลับและแนวทางที่รวบรวมจากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญและสายการบิน:
เตรียมเอกสารให้มืออาชีพ: ร่าง เรซูเม่ (CV) ของคุณให้กระชับและน่าสนใจ เน้นประสบการณ์ในงานบริการและทักษะการสื่อสารที่เกี่ยวข้อง เช่น ระบุงานบริการลูกค้าที่เคยทำ ความสำเร็จที่เคยได้รับ และทักษะด้านภาษา จัดรูปแบบให้อ่านง่าย และตรวจสอบคำผิดให้เรียบร้อย นอกจากนี้ เตรียม รูปถ่ายสมัครงาน ที่สุภาพ (เต็มตัวและครึ่งตัว) ตามมาตรฐานสายการบินไว้เผื่อถูกขอ
ฝึกซ้อมการสัมภาษณ์และวิดีโอ: ลอง ซ้อมตอบคำถามสัมภาษณ์ยอดนิยม เป็นภาษาอังกฤษ เช่น ทำไมคุณถึงอยากเป็นแอร์/สจ๊วต?, จุดแข็ง-จุดอ่อนของคุณคืออะไร?, เล่าประสบการณ์ที่คุณเคยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ลูกค้าฟัง เป็นต้น ซ้อมหน้ากระจกหรืออัดวิดีโอเพื่อตรวจดูบุคลิกภาพและภาษากายของตนเอง หมั่น ฝึกยิ้มและรักษาท่าทางสุภาพ อยู่เสมอ แม้แต่ในการสัมภาษณ์ผ่านวิดีโอก็ควรแต่งกายเหมือนไปสัมภาษณ์จริง (ชุดสูทหรือชุดสุภาพทางการ) เพื่อสร้างความประทับใจแรกที่ดี เตรียมสถานที่สำหรับการอัดวิดีโอให้แสงสว่างเพียงพอ เสียงชัดเจน ไม่มีเสียงรบกวน
เพิ่มพูนความรู้และความเข้าใจในสายการบิน: ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ Riyadh Air ให้มากที่สุด ทั้งประวัติความเป็นมา วิสัยทัศน์ของสายการบิน (เช่น เป้าหมายเป็นสายการบินชั้นนำระดับโลกภายในปี 2030 ตลอดจน แนวคิดการบริการแบบ Hafawa ซึ่งเน้นความอบอุ่นแบบการต้อนรับฉบับซาอุฯ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สายการบินนำมาใช้ ผู้สมัครที่สามารถพูดถึงจุดเด่นของ Riyadh Air หรือแสดงความรู้ความเข้าใจในแบรนด์จะสร้างความประทับใจกับผู้สัมภาษณ์ได้ดี
ฝึกภาษาอังกฤษและภาษาที่สาม: เนื่องจากงานนี้ต้องพบเจอผู้โดยสารหลากหลายชาติ ความคล่องตัวในการสื่อสารภาษาอังกฤษเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง แนะนำให้ฝึกพูดและฟังภาษาอังกฤษทุกวัน เช่น ดูข่าวหรือซีรีส์ภาษาอังกฤษ, ฝึกตอบคำถามเป็นภาษาอังกฤษดัง ๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคย นอกจากนี้หากมีเวลาควรเรียนรู้ ภาษาที่สาม เพิ่มเติมตามความสนใจ (เช่น อาหรับ จีน สเปน ฝรั่งเศส) เพราะจะช่วยเพิ่มคุณค่าในตัวคุณและเป็นจุดเด่นในใบสมัคร (สายการบินระบุว่าได้ภาษาที่สามถือเป็น โบนัส เลยทีเดียว)
เตรียมตัวด้านบุคลิกภาพและความมั่นใจ: บุคลิกที่ สุภาพ มั่นใจ แต่ไม่หยิ่งผยอง เป็นสิ่งที่สายการบินมองหา ผู้สมัครควรฝึกการยืน เดิน นั่ง ให้สง่างามเหมาะสม ฝึกยิ้มให้ออกจากสายตาและแววตา มี ทัศนคติที่พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ อยู่เสมอ ในวันสัมภาษณ์จริง ให้เป็นตัวของตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด แสดงความจริงใจและความกระตือรือร้นที่อยากจะทำงานนี้ออกมา เพราะความเฟรนด์ลี่และเอเนอร์จี้บวกจะทำให้คุณโดดเด่นกว่าใคร
หลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่พบบ่อย: มีข้อควรระวังบางประการที่ผู้สมัครควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ อย่าอัดวิดีโอแนะนำตัวที่ยาวหรือเยิ่นเย้อมากเกินไป ควรสรุปให้กระชับภายใน ~1-2 นาที เพื่อรักษาความสนใจของกรรมการ, ไม่ควรใช้ฟิลเตอร์หรือแต่งรูปถ่ายสมัครงานจนจำตัวจริงไม่ได้ สายการบินต้องการเห็นบุคลิกภาพจริงของคุณมากกว่าใบหน้าที่แต่งจนเกินจริง, อย่าลืมหาข้อมูลสายการบินก่อนวันสัมภาษณ์ การไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับองค์กรจะแสดงถึงการเตรียมตัวที่ไม่เพียงพอ, และ ไม่ควรเอ่ยถึงสายการบินอื่นว่าเป็น สายการบินในฝัน ของคุณในขณะสัมภาษณ์กับ Riyadh Air เพราะจะทำให้ดูเหมือนคุณไม่ได้มุ่งมั่นกับ Riyadh Air อย่างเต็มที่
ฟิตร่างกายให้พร้อม: อาชีพลูกเรือต้องการคนที่สุขภาพแข็งแรง สามารถยืนและเดินบนเครื่องหลายชั่วโมง รวมทั้งยกของหนักในบางครั้ง ควรดูแลสุขภาพ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอก่อนวันสัมภาษณ์ นอกจากนี้ควรฝึกฝนการว่ายน้ำให้ชำนาญและไม่กลัวน้ำ เนื่องจากเป็นหนึ่งในทักษะที่สายการบินต้องทดสอบและให้ความสำคัญ
การเตรียมตัวตามคำแนะนำข้างต้นจะช่วยให้ผู้สมัครมี ความมั่นใจและความพร้อม ทั้งด้านทักษะและจิตใจในการเผชิญกับกระบวนการคัดเลือกที่เข้มข้นของ Riyadh Air เมื่อตัวเราพร้อมเต็มที่ โอกาสความสำเร็จก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
ค่าใช้จ่ายที่ผู้สมัครต้องรับผิดชอบเอง
การสมัครงานลูกเรือกับ Riyadh Air ไม่มีค่าธรรมเนียมในการสมัครโดยตรง ให้ผู้สมัครต้องจ่ายให้กับสายการบิน (หากมีหน่วยงานหรือบุคคลใดเรียกเก็บเงินในการช่วยสมัคร ควรระวังว่าไม่ใช่ช่องทางทางการ) อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครควรเตรียมรับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายส่วนตัวบางประการ ดังต่อไปนี้:
ค่าเดินทางและที่พักเพื่อเข้าร่วมสัมภาษณ์: อย่างที่ได้กล่าวว่า Riyadh Air ใช้วิธีเชิญผู้สมัครไปร่วม Assessment Day ในเมืองหลักต่าง ๆ ซึ่งผู้สมัครต้องออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไป-กลับสถานที่สัมภาษณ์เอง เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน/รถโดยสารไปกรุงเทพฯ ค่าที่พักระหว่างไปสัมภาษณ์ เป็นต้น สายการบินจะไม่จัดงบประมาณรองรับส่วนนี้ให้ (ถือเป็นมาตรฐานปกติของการสมัครงานสายการบินที่ผู้สมัครลงทุนค่าเดินทางเอง) ดังนั้นหากคุณได้รับเชิญให้สัมภาษณ์ ควรวางแผนเรื่องค่าใช้จ่ายและการเดินทางล่วงหน้าให้พร้อม
ค่าเอกสารส่วนตัว: ผู้สมัครอาจมีค่าใช้จ่ายในการจัดเตรียมเอกสารบางอย่าง เช่น ค่าถ่ายรูปสมัครงาน, ค่าถ่ายสำเนาและรับรองเอกสาร (วุฒิการศึกษา ทะเบียนบ้าน ฯลฯ) รวมถึงค่าแปลเอกสารเป็นภาษาอังกฤษ (ถ้าจำเป็น) ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้ผู้สมัครต้องรับผิดชอบเอง
ค่าตรวจสุขภาพเบื้องต้น: ในบางกรณี ผู้สมัครอาจเลือกตรวจสุขภาพหรือตรวจร่างกายคร่าว ๆ ด้วยตนเองก่อนเพื่อความมั่นใจ (เช่น ตรวจสายตา ฟัน หรือภาวะสุขภาพอื่น ๆ) ซึ่งไม่ใช่ข้อบังคับ แต่หากทำก็เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว อย่างไรก็ดี หากผ่านเข้ารอบสุดท้าย ทางสายการบินจะจัดการตรวจร่างกายอย่างเป็นทางการ โดยแพทย์ที่กำหนด ซึ่ง ค่าใช้จ่ายในการตรวจสุขภาพขั้นสุดท้ายนี้สายการบินมักจะเป็นผู้ดูแล หรือรวมอยู่ในแพ็กเกจการจ้างงานอยู่แล้ว ผู้สมัครไม่ต้องจ่ายเองในขั้นตอนนั้น
ค่าเดินทางย้ายถิ่นฐาน (หากได้รับคัดเลือก): สำหรับผู้ที่ผ่านการคัดเลือกและเซ็นสัญญาเข้าทำงานกับ Riyadh Air แล้ว สายการบินจะจัดการเรื่องการทำวีซ่าทำงานและอำนวยความสะดวกในการเดินทางมาเริ่มงานที่ริยาดห์ ซึ่งโดยทั่วไปสายการบินจะออกค่าใช้จ่ายให้ เช่น จัดตั๋วเครื่องบินเที่ยวบินขาไปมาให้ หรือเบิกค่าโดยสารได้ ตาม นโยบายการสนับสนุนการย้ายถิ่นฐานของบริษัท ดังนั้นผู้ผ่านงานไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปประจำที่ต่างประเทศมากนัก (อย่างไรก็ตาม ควรมีเงินสำรองติดตัวสำหรับการใช้จ่ายส่วนตัวในช่วงแรกก่อนรับเงินเดือน)
โดยสรุปแล้ว ในขั้นตอนการสมัครจนถึงก่อนรู้ผล ผู้สมัครจะมีค่าใช้จ่ายหลัก ๆ คือ ค่าการเดินทางมาเข้าสัมภาษณ์ และ ค่าเตรียมเอกสารต่าง ๆ ซึ่งควรบริหารจัดการตามงบประมาณตนเอง ส่วนหลังจากได้รับการจ้างงาน หลาย ๆ อย่างสายการบินจะดูแลให้ เช่น ค่าวีซ่า ค่าตั๋วเครื่องบินเดินทางไปทำงาน ที่พัก ฯลฯ (รายละเอียดอยู่ในหมวดสวัสดิการด้านล่าง) ผู้สมัครจึงควรมุ่งโฟกัสที่การเตรียมความพร้อมของตนให้ดีที่สุด โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายจิปาถะมากจนเกินไป
สิทธิประโยชน์และสวัสดิการสำหรับลูกเรือของ Riyadh Air
หนึ่งในแรงจูงใจที่ทำให้สายการบิน Riyadh Air ได้รับความสนใจอย่างมากคือ แพ็คเกจเงินเดือนและสวัสดิการ ที่มีความน่าสนใจและสามารถแข่งขันกับสายการบินตะวันออกกลางชั้นนำอื่น ๆ ได้ ดังนี้คือข้อมูลเกี่ยวกับรายได้และสวัสดิการที่ลูกเรือของ Riyadh Air จะได้รับ:
เงินเดือนและค่าตอบแทน: ลูกเรือของ Riyadh Air จะได้รับ เงินเดือนปลอดภาษี (Tax-free) โดยประกอบด้วย เงินเดือนพื้นฐาน (Base Salary) และ ค่าชั่วโมงบิน (Flying Hour Pay) รวมแล้วต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 9,000 12,000 SAR (ประมาณ 86,000 115,000 บาท ขึ้นอยู่กับชั่วโมงบินและเบี้ยเลี้ยง) ตัวอย่างโครงสร้างที่มีรายงานคือ เงินเดือนพื้นฐานราว 5,500 SAR/เดือน และค่าชั่วโมงบินประมาณ 75 SAR ต่อชั่วโมง (สมมติบิน ~75 ชั่วโมงจะได้ 5,500 + 75×75 = ~11,725 SAR) ซึ่งสอดคล้องกับที่สายการบินอื่นในภูมิภาคจ่ายให้ลูกเรือระดับต้น นอกจากนี้ยังมี ค่าเบี้ยเลี้ยง/ค่าอาหารระหว่างไปปฏิบัติงาน ที่จ่ายตามแต่ละไฟลท์ (โดยเฉลี่ยอีกประมาณ 1,5002,000 SAR ต่อเดือน)รวมรายรับโดยประมาณต่อเดือนจึงค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับค่าครองชีพในภูมิภาค ทั้งหมดนี้ ปลอดภาษี 100% เนื่องจากซาอุดีอาระเบียไม่มีการเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ที่พัก: สายการบินจัดที่พักให้ฟรี สำหรับลูกเรือทุกคนที่ประจำอยู่ริยาดห์ โดยที่พักเป็นลักษณะอพาร์ตเมนต์ที่ แชร์กับลูกเรือคนอื่น แต่จะจัดให้แต่ละคนมี ห้องนอนส่วนตัว ของตนเอง (อาจแชร์ห้องนั่งเล่น/ครัว) ที่พักเหล่านี้จะอยู่ ใกล้กับสนามบิน King Khalid เพื่อความสะดวก และทางสายการบินมี รถรับส่ง คอยรับ-ส่งลูกเรือระหว่างที่พักกับศูนย์ปฏิบัติงานที่สนามบินโดยไม่มีค่าใช้จ่าย สภาพที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกถูกจัดเตรียมอย่างดีตามมาตรฐานสายการบินชั้นนำ ดังนั้นลูกเรือไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเช่าบ้านหรือค่าเดินทางไปทำงานเลย
สวัสดิการด้านการเดินทาง: ลูกเรือจะได้รับ สิทธิในการโดยสารเที่ยวบินของสายการบินฟรีหรือลดราคา ทั้งในฐานะพนักงาน (Firm ticket หรือ Standby ticket) และยังสามารถรับสิทธิ ตั๋วโดยสารราคาพิเศษสำหรับครอบครัว/บุคคลใกล้ชิด ได้หลังจากทำงานครบกำหนด (รายงานระบุว่าหลังครบ 1 ปี จะได้สิทธิส่วนลดตั๋วสำหรับครอบครัว) ซึ่งสิทธินี้คล้ายกับสายการบินใหญ่ในตะวันออกกลาง นอกจากนี้ ลูกเรือ Riyadh Air จะได้ ตั๋วเครื่องบินฟรีสำหรับเดินทางกลับบ้าน (Annual leave ticket) ปีละหนึ่งครั้งหรือมากกว่านั้นตามนโยบาย (มักรวมอยู่ในสิทธิวันลาพักร้อนประจำปี) ทำให้สามารถกลับเยี่ยมครอบครัวที่ประเทศไทยหรือท่องเที่ยวในวันหยุดได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเต็มจำนวน
ประกันสุขภาพและกองทุน: สายการบินมี ประกันสุขภาพแบบเอกชน (Private Medical Insurance) ให้กับลูกเรือ ครอบคลุมการรักษาพยาบาลตามมาตรฐานสากลในซาอุดีอาระเบีย และหลังจากทำงานครบ 6 เดือน จะได้เข้าร่วม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/กองทุนบำเหน็จบำนาญ (Retirement fund) ของบริษัท เพื่อสร้างความมั่นคงในระยะยาว นอกจากนี้ยังมีการตรวจสุขภาพพนักงานประจำปี และสิทธิการรักษาพยาบาลอื่น ๆ ตามความเหมาะสม
วันหยุดและเวลาพักผ่อน: ตารางบินของลูกเรือจะถูกจัดอย่างเป็นธรรม มีการ การันตีวันหยุดขั้นต่ำ 8 วันต่อเดือนและมี วันลาพักร้อนประจำปี ตามที่กำหนด (โดยทั่วไปสายการบินตะวันออกกลางมักให้ประมาณ 30 วัน/ปี) ในแต่ละเดือนลูกเรือจะบินเฉลี่ยประมาณ 80110 ชั่วโมง ซึ่งใกล้เคียงกับมาตรฐานอุตสาหกรรม และสามารถ สลับหรือแลกวันหยุด/ไฟลท์ กับเพื่อนร่วมงานได้บ้างตามระบบ (Riyadh Air ใช้ระบบตารางแบบประมูล คือให้ลูกเรือระบุความต้องการบางอย่างแล้วจัดตารางตามลำดับ จึงมีความยืดหยุ่นพอสมควร
โอกาสเติบโตในสายอาชีพ: Riyadh Air เป็นสายการบินใหม่ที่ขยายตัวเร็ว จึงมี โอกาสความก้าวหน้าในอาชีพสูงหากปฏิบัติงานดี ผู้ดำรงตำแหน่ง Cabin Crew สามารถเลื่อนขั้นเป็น Senior Cabin Crew หรือ Cabin Supervisor (Purser) ได้ตามอายุงานและความสามารถ ซึ่งแต่ละระดับก็จะมี ฐานเงินเดือนที่สูงขึ้น เช่น รายงานคาดการณ์เงินเดือนของ Senior Crew ราว 13,00016,000 SAR และ Purser 17,00022,000 SAR ต่อเดือนนอกจากนี้ Riyadh Air ยังมี โบนัสผลงานประจำปี ให้พนักงานที่ทำผลงานได้ตามเป้าหมายขององค์กรอีกด้วย
สวัสดิการอื่น ๆ: บริษัทยังส่งเสริม วัฒนธรรมองค์กรที่ทันสมัย และบรรยากาศการทำงานแบบทีมที่สนับสนุนกัน (supportive team) ลูกเรือจะได้สวมใส่ ยูนิฟอร์มที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ระดับโลกจาก Ashi Studioซึ่งเปิดตัวในงาน Paris Fashion Week 2023 ทำให้ได้เครื่องแบบที่ทั้งสง่างามและใช้งานสะดวก (ผสมผสานแฟชั่นชั้นสูงเข้ากับความคล่องตัว) และได้รับการจัดหาเครื่องแบบพร้อมอุปกรณ์ที่จำเป็นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายนอกจากนี้ เมื่อสายการบินเริ่มเปิดเส้นทางบินมากขึ้น ลูกเรือจะมีโอกาส เดินทางไปยังเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก ได้หลากหลาย เปิดประสบการณ์การท่องโลกกว้างพร้อมกับการทำงาน ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ของอาชีพนี้
ทั้งหมดนี้คือ ข้อมูลสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ ที่ทำให้การทำงานเป็นลูกเรือของ Riyadh Air น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง สรุปคือ ได้รับค่าตอบแทนดี มีที่พักฟรี มีประกันสุขภาพ วันหยุดและตั๋วเครื่องบินให้ พร้อมทั้งโอกาสก้าวหน้าในอาชีพท่ามกลางสภาพแวดล้อมการทำงานแบบสายการบินระดับโลก สำหรับผู้ที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นลูกเรือและสัมผัสประสบการณ์การทำงานในตะวันออกกลาง Riyadh Air จึงนับเป็นตัวเลือกใหม่ที่น่าจับตามองมากทีเดียว


