Emirates Airline: เส้นทางสู่การติดปีก

การสมัครลูกเรือสายการบิน Emirates สำหรับผู้สมัครชาวไทย (อัปเดตปี 2025)
คุณสมบัติที่ Emirates มองหาในผู้สมัครลูกเรือ
Emirates กำหนดคุณสมบัติขั้นต่ำที่ผู้สมัครตำแหน่งลูกเรือจะต้องมี ดังนี้:
อายุ: ผู้สมัครต้องมีอายุอย่างน้อย 21 ปีบริบูรณ์
การศึกษา: จบการศึกษาขั้นต่ำระดับมัธยมปลาย (วุฒิ ม.6 หรือเทียบเท่า)
ส่วนสูงและเอื้อมถึง: ส่วนสูงไม่ต่ำกว่า 160 ซม. โดยสามารถเอื้อมแตะได้สูง 212 ซม. (เพื่อความปลอดภัยในการหยิบจับอุปกรณ์บนเครื่องบิน)
ทักษะภาษา: ภาษาอังกฤษต้องอยู่ในเกณฑ์ดีมากทั้งการพูดและเขียน (ไม่มีการกำหนดคะแนน TOEIC แต่จะประเมินจากการสัมภาษณ์และข้อสอบของสายการบินโดยตรง) และหากสื่อสารภาษาอื่นได้ด้วย (เช่น ภาษาจีนหรือญี่ปุ่น) จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการพิจารณา
บุคลิกภาพ: มีใจรักงานบริการ ทัศนคติดี เป็นมิตร ยิ้มแย้ม และสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นเป็นทีมได้ดี (Emirates ระบุว่าต้องการคนที่มีบุคลิกภาพที่โดดเด่นและทำงานเป็นทีมได้อย่างเป็นธรรมชาติ)
ประสบการณ์: มีประสบการณ์การทำงานด้านงานบริการลูกค้าอย่างน้อย 1 ปี ไม่ว่าจะเป็นงานสายการบิน การบริการบนภาคพื้น โรงแรม ร้านอาหาร หรือธุรกิจบริการอื่นๆ
รอยสัก/รูปลักษณ์: ไม่มีรอยสักหรือแผลเป็นที่อยู่นอกร่มผ้า (บริเวณที่เครื่องแบบปกปิดไม่ถึง) ซึ่งมองเห็นได้เมื่อใส่ชุดยูนิฟอร์ม และไม่อนุญาตให้ใช้เครื่องสำอางหรือวิธีการใดๆ ปกปิดรอยสักเหล่านั้น นอกจากนี้ผู้สมัครต้องมีภาพลักษณ์สุภาพเรียบร้อยตามมาตรฐานสายการบิน (เช่น แต่งกายสุภาพ ผมและการแต่งหน้าดูสะอาดตา ไม่มีเจาะหรือสะพายที่ผิดระเบียบ)
สุขภาพ: สุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์ ไม่มีโรคต้องห้าม สามารถยืนทำงานเป็นเวลานาน และผ่านการตรวจสุขภาพตามมาตรฐานการบินได้ รวมถึงผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม (เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดการขอวีซ่าทำงานของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)
ถิ่นพำนัก: ยินดีย้ายที่อยู่ไปปฏิบัติงานที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นฐานปฏิบัติงานหลักของสายการบินตลอดอายุการจ้างงาน (ผู้สมัครต้องสามารถปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิต กฎระเบียบ และวัฒนธรรมของดูไบได้)
หมายเหตุ: Emirates เปิดรับทั้งผู้สมัคร ชายและหญิงที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ข้างต้น (ไม่มีการจำกัดเพศ)โดยผู้สมัครจากประเทศไทยจะได้รับการพิจารณาเช่นเดียวกับผู้สมัครสัญชาติอื่นๆ ตามคุณสมบัติมาตรฐานนี้
2. ขั้นตอนการสมัครและกระบวนการคัดเลือก
กระบวนการสมัครลูกเรือของ Emirates ในปี 2025 มีหลายขั้นตอนต่อเนื่อง ตั้งแต่การสมัครออนไลน์ไปจนถึงการสัมภาษณ์ขั้นสุดท้ายและการรับข้อเสนอเข้าทำงาน ดังนี้:
สมัครออนไลน์: ผู้สมัครต้องยื่นใบสมัครผ่านเว็บไซต์ Emirates Group Careers โดยกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ แนบประวัติย่อ (CV) ภาษาอังกฤษ พร้อมรูปถ่าย เต็มตัวและรูปหน้าตรงแบบหนังสือเดินทาง ตามที่กำหนด และตอบคำถามเบื้องต้นให้ครบถ้วน (เคล็ดลับ: ควรปรับแต่ง CV ให้เน้น
ประสบการณ์งานบริการ ทักษะการทำงานเป็นทีม และความสามารถทางภาษาของตนเอง) เมื่อส่งใบสมัครแล้วจะต้องรอการคัดกรองเบื้องต้นจากฝ่ายทรัพยากรบุคคลของสายการบิน
การคัดกรองและเชิญร่วม Assessment Day: หากใบสมัครออนไลน์ของคุณผ่านเกณฑ์เบื้องต้น คุณจะได้รับ อีเมลเชิญให้เข้าร่วม Assessment Day หรือวันประเมิน/สัมภาษณ์กับทาง Emirates ซึ่งมักจัดขึ้นในเมืองใหญ่ต่างๆ ทั่วโลกตามรอบที่สายการบินกำหนด สำหรับผู้สมัครจากไทย ในปี 2025 ที่ผ่านมา Emirates ได้จัด วันสัมภาษณ์ในประเทศไทยหลายครั้ง เช่น ที่กรุงเทพฯ (วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 และ 22 มีนาคม 2025) และที่ภูเก็ต (วันที่ 3 เมษายน 2025) โดยทั้งหมดเป็นรอบ Invite-Only คือ ต้องได้รับคำเชิญหลังผ่านการสมัครออนไลน์เท่านั้นจึงจะเข้าร่วมได้ (ไม่ได้เปิดให้วอล์กอิน) หมายเหตุ: ผู้สมัครควรยืนยันการเข้าร่วมตามคำเชิญให้ทันเวลาและเตรียมตัวสำหรับวันดังกล่าว
วันเปิดรับสมัคร/สัมภาษณ์ (Open Day/Assessment Day): ในวันงานสัมภาษณ์ ผู้สมัครจะต้องมาตามสถานที่และเวลาที่กำหนด แต่งกายชุดสุภาพแบบมืออาชีพ (business attire) ตั้งแต่หัวจรดเท้า และนำเอกสารที่จำเป็นติดตัวมาด้วย (เช่น สำเนา CV รูปถ่าย) โดยในช่วงเช้าจะมีขั้นตอน ลงทะเบียนและตรวจเอกสาร จากนั้นจะมี การสัมภาษณ์/พูดคุยสั้นๆ แบบกลุ่มหรือรายบุคคลรอบแรก เพื่อทดสอบทักษะการสื่อสารเบื้องต้น รวมถึงการ ตรวจวัดส่วนสูงและการเอื้อมแตะ ของผู้สมัครทุกคนว่าผ่านเกณฑ์หรือไม่ (เจ้าหน้าที่จะให้ผู้สมัครเอื้อมมือแตะแถบที่ความสูง 212 ซม.)
การประเมินกลุ่ม (Group Exercises): ผู้สมัครที่ผ่านการคัดกรองเบื้องต้นจะเข้าสู่ กิจกรรมกลุ่ม ซึ่งอาจเป็นการจำลองสถานการณ์หรือเกมกลุ่มให้แก้ปัญหาร่วมกับผู้อื่น ในขั้นตอนนี้ กรรมการจะสังเกตทักษะการทำงานเป็นทีม การสื่อสาร การเป็นผู้นำ และการเข้ากับผู้อื่น ของผู้สมัครแต่ละคน (คำแนะนำ: พยายามมีส่วนร่วมในการสนทนาอย่างเหมาะสม แสดงความเป็นมิตรและให้ความร่วมมือกับผู้อื่น ไม่ควรครอบงำการสนทนาแต่ก็ไม่เงียบจนเกินไป เพื่อให้กรรมการเห็นถึงการเป็นผู้ร่วมทีมที่ดี)
การทดสอบข้อเขียน/ความสามารถ: หลายกรณี Emirates จะมีการทดสอบข้อเขียนสั้นๆ เพื่อประเมินทักษะภาษาอังกฤษและเชาวน์ปัญญาของผู้สมัคร เช่น แบบทดสอบการอ่านจับใจความ, ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ, คำศัพท์พื้นฐานตลอดจนการทดสอบคำนวณเลขง่ายๆ หรือการแก้ปัญหาเชิงตรรกะ เพื่อดูความพร้อมในการสื่อสารและไหวพริบเบื้องต้นของผู้สมัคร
การสัมภาษณ์เดี่ยว (Final Interview): ขั้นสุดท้ายผู้สมัครที่ผ่านรอบต่างๆ จะเข้าสู่ การสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัว กับกรรมการตัวแทนสายการบิน ซึ่งเป็นการสัมภาษณ์เชิงลึก ในรอบนี้จะเป็นการถามคำถามเชิงพฤติกรรมและทัศนคติ เช่น เคยมีประสบการณ์รับมือกับลูกค้ายากๆ อย่างไร? เพราะเหตุใดคุณจึงอยากเป็นลูกเรือ Emirates? หรือ จะปรับตัวอย่างไรกับการย้ายไปอยู่ดูไบ? เป็นต้น ผู้สมัครควรตอบโดยใช้หลักการ STAR (อธิบายสถานการณ์, บทบาทหน้าที่, การกระทำของตน, และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น) เพื่อให้คำตอบกระชับและเห็นภาพถึงทักษะของตนอย่างชัดเจน นอกจากนี้ควรแสดงความมั่นใจ ยิ้มแย้ม และมีทัศนคติที่ดีตลอดการสัมภาษณ์
ตรวจสอบประวัติและตรวจสุขภาพ: หลังจบการสัมภาษณ์ขั้นสุดท้าย หากผู้สมัครผ่านการคัดเลือกในขั้นตอนนี้ ทาง Emirates จะยังไม่ประกาศผลทันที แต่จะดำเนินการ ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม (Background Check) ของผู้สมัครแต่ละรายควบคู่กับการ ตรวจร่างกาย ตามมาตรฐานที่กำหนด เช่น ส่งผู้สมัครไปตรวจร่างกายทั่วไปและตรวจฟัน รวมถึงให้กรอกแบบฟอร์มข้อมูลสุขภาพส่วนตัวอย่างละเอียด (ค่าใช้จ่ายในการตรวจสุขภาพเบื้องต้นผู้สมัครอาจต้องออกเอง) เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยและผ่านเกณฑ์ สายการบินจึงจะยืนยันการรับเข้าทำงานอย่างเป็นทางการ
การแจ้งผลและตอบรับเข้าทำงาน: หากผู้สมัคร ผ่านทุกขั้นตอน ตั้งแต่สัมภาษณ์จนถึงตรวจสุขภาพ/ตรวจประวัติเรียบร้อย จะได้รับอีเมลหรือโทรศัพท์แจ้งผลการสมัครอย่างเป็นทางการจาก Emirates พร้อมทั้งส่งสัญญาจ้างงาน (Job Offer) ให้เซ็นตอบรับ ผู้สมัครจะได้รับรายละเอียดเกี่ยวกับ กำหนดวันเริ่มงาน กำหนดวันเดินทางไปดูไบ ตลอดจนข้อมูลการขอวีซ่าทำงานและตั๋วเครื่องบินเที่ยวบินสำหรับเดินทางไปฝึกอบรมที่ดูไบด้วย (หมายเหตุ: โดยทั่วไปกระบวนการตั้งแต่สมัครจนได้รับการตอบรับอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ ถึงเป็นเดือน ขึ้นอยู่กับรอบการสัมภาษณ์และจำนวนผู้ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย ในกรณีผู้สมัครผ่านสัมภาษณ์แล้วอาจต้องรอสายการบินจัดรอบการฝึกอบรมที่ดูไบ ผู้สมัครบางคนได้รับแจ้งให้ไปรอ Join Pool และได้รับกำหนดการเริ่มงานหลังจากนั้นประมาณ 1-3 เดือน)
สรุป: ขั้นตอนการคัดเลือกของ Emirates มีความเข้มข้นและแข่งขันสูง ผู้สมัครจากไทยควรเตรียมตัวให้พร้อมในทุกด้านตั้งแต่การสมัครออนไลน์ไปจนถึงการสัมภาษณ์ขั้นสุดท้าย หากไม่ผ่านในรอบใดรอบหนึ่ง ทางสายการบินจะแจ้งให้ทราบ และผู้สมัครสามารถสมัครใหม่ได้อีกครั้งหลังจากผ่านไป 3-6 เดือน (ตามนโยบายการรับสมัครใหม่ของสายการบิน)
3. แนวทางการเตรียมตัวก่อนสมัครและก่อนสัมภาษณ์
การเตรียมตัวที่ดีจะเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการสมัครลูกเรือ Emirates ดังนั้นผู้สมัครควรให้ความสำคัญกับสิ่งต่อไปนี้:
เตรียมเอกสารและรูปถ่ายให้ครบ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเรซูเม่หรือ CV เขียนเป็นภาษาอังกฤษอย่างมืออาชีพ ระบุประวัติการศึกษา ประสบการณ์ทำงาน และทักษะต่างๆ ที่สอดคล้องกับงานบริการ ผู้สมัครควรแนบรูปถ่ายสมัครงานตามที่กำหนด ได้แก่ รูปถ่ายเต็มตัว (เต็มชุดสุภาพ ยืนตรง มองกล้อง ยิ้มแย้ม) และ รูปถ่ายหน้าตรงขนาดพาสปอร์ตเห็นใบหน้าชัดเจน ยิ้มแย้ม พื้นหลังสีสุภาพ รูปถ่ายเหล่านี้ทาง Emirates ใช้ประกอบการพิจารณาบุคลิกภาพและภาพลักษณ์เบื้องต้น จึงควรถ่ายอย่างมืออาชีพตามข้อกำหนดสายการบิน นอกจากนี้ ควรเตรียมสำเนาเอกสารส่วนตัวที่อาจจำเป็นในวันสัมภาษณ์ เช่น สำเนาหนังสือเดินทาง, บัตรประชาชน, หลักฐานการศึกษา, ใบรับรองการทำงาน เป็นต้น ใส่แฟ้มสะสมผลงาน (portfolio) ให้เรียบร้อยเพื่อความเป็นระเบียบ
การแต่งกายและบุคลิกภาพ: ภาพลักษณ์ภายนอกมีความสำคัญมากในการสมัครลูกเรือ ผู้สมัครควรฝึกแต่งกายให้สุภาพแบบมืออาชีพตั้งแต่วันยื่นเอกสารไปจนถึงวันสัมภาษณ์จริง สำหรับสุภาพสตรี ควรสวมชุดสูทหรือเสื้อเบลเซอร์กับกระโปรงความยาวคลุมเข่า สีสุภาพ ใส่ถุงน่องสีเนื้อ รองเท้าแบบคัชชูมีส้นปิดหัวเท้า รวบผมให้เรียบร้อยแต่งหน้าบางๆ ดูสะอาดตา ไม่ควรใส่เครื่องประดับเยอะเกินไป (ต่างหูควรเป็นเม็ดเล็กๆ แบบสุภาพ) ส่วนสุภาพบุรุษ ควรสวมสูทผูกเนคไท รองเท้าหนัง และตัดผมสั้นเรียบร้อย โกนหนวดเคราให้เกลี้ยงเกลา ไม่มีเครื่องประดับที่ไม่จำเป็น ในวันสัมภาษณ์จริง ควรมาถึงก่อนเวลา เพื่อจัดระเบียบชุดแต่งกาย ท่าทางการยืนเดิน และรอยยิ้มให้พร้อม ความประทับใจแรกพบเป็นสิ่งสำคัญ มากต่อการคัดเลือก นอกจากนี้ Emirates มีมาตรฐานเรื่องการกรูมมิ่งที่เข้มงวด ผู้สมัครควรศึกษาล่วงหน้าว่า ทรงผมและการแต่งหน้าที่เหมาะสมตามมาตรฐานสายการบินเป็นอย่างไร (เช่น สุภาพสตรีนิยมเกล้าผมมวยต่ำหรือมวยสูงให้เรียบร้อย สุภาพบุรุษผมสั้นทันสมัย เป็นต้น) และที่สำคัญ หลีกเลี่ยงการโชว์รอยสักหรือการเจาะใดๆ ที่เห็นได้ภายนอกในวันสัมภาษณ์
พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ: เนื่องจากการสมัคร Emirates ใช้ภาษาอังกฤษตลอดกระบวนการ ทั้งการกรอกใบสมัคร การสื่อสารในวันสัมภาษณ์ และการทดสอบข้อเขียน ผู้สมัครควรฝึกฝนภาษาอังกฤษให้คล่องแคล่ว ทั้งการพูด (ฝึกตอบคำถามสัมภาษณ์ให้ชัดถ้อยชัดคำและกระชับ) การฟัง (ฟังคำถามและทำความเข้าใจได้เร็ว) การอ่านและเขียน (เพื่อทำข้อสอบข้อเขียนและกรอกเอกสารต่างๆ) หากมี จุดอ่อนด้านใดด้านหนึ่ง ควรเร่งปรับปรุงล่วงหน้า เช่น ฝึกสนทนากับครูหรือเพื่อนเป็นภาษาอังกฤษ หาแบบฝึกหัดการอ่านจับใจความและไวยากรณ์ภาษาอังกฤษมาทำ เป็นต้น ในวันสัมภาษณ์จริง ทาง Emirates อาจมีการทดสอบภาษาอังกฤษและตรรกะความคิด ผ่านข้อสอบสั้นๆ ที่มี การอ่านบทความสั้นและตอบคำถาม, เติมคำศัพท์หรือปรับแก้ประโยคให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์, และโจทย์คำนวณเลขง่ายๆ ผู้สมัครควรซักซ้อมรูปแบบข้อสอบลักษณะนี้ไว้ล่วงหน้า นอกจากนี้ การพูดคุยสื่อสารกับเจ้าหน้าที่และผู้สมัครคนอื่นๆ ตลอดวันสัมภาษณ์ควรใช้ภาษาอังกฤษ ให้คล่องและสุภาพอยู่เสมอ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในการใช้ภาษา โดยไม่มีความจำเป็นต้องใช้ผลสอบ TOEIC/IELTS ในการสมัคร Emirates แต่ทักษะการสื่อสารจริงจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญ
ฝึกตอบคำถามสัมภาษณ์และสถานการณ์สมมติ: ควรเตรียมตัวสำหรับคำถามสัมภาษณ์เชิงพฤติกรรมยอดนิยมไว้ล่วงหน้า เช่น ลองนึกดูว่า อะไรคือความท้าทายที่เคยเจอในการทำงานบริการและคุณจัดการอย่างไร? หรือ เหตุใดคุณจึงอยากร่วมงานกับ Emirates และคุณมีอะไรที่โดดเด่นกว่าผู้สมัครคนอื่น? เป็นต้น แล้วฝึกเรียบเรียงคำตอบเป็นภาษาอังกฤษโดยใช้เทคนิค STAR (Situation-Task-Action-Result) เพื่อให้นำเสนอประสบการณ์ของตนอย่างมีน้ำหนักและเป็นระบบ นอกจากนี้ควร เตรียมตัวรับมือกับการทำงานเป็นทีมในกิจกรรมกลุ่ม ฝึกการเป็นผู้ฟังที่ดีและผู้นำที่ดีในเวลาเดียวกัน รวมถึง ฝึกแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ในสถานการณ์จำลองต่างๆ (เช่น ผู้โดยสารไม่พอใจ, เหตุการณ์ฉุกเฉินบนเครื่อง) เพื่อแสดงให้กรรมการเห็นถึงไหวพริบและทัศนคติที่พร้อมจะเรียนรู้ของเรา ที่สำคัญในวันจริง รักษาความใจเย็นและยิ้มแย้มเข้าไว้ แม้ว่ากระบวนการคัดเลือกจะยาวนานและกดดัน การมีท่าทีสงบและมองโลกในแง่ดีจะแสดงถึงความเป็นมืออาชีพของเราครับ
ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ Emirates: ควรหาข้อมูลเกี่ยวกับสายการบิน Emirates เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางบินที่ให้บริการ ฝูงบิน (เครื่องบินรุ่นต่างๆ ที่ใช้งาน เช่น A380, B777) มาตรฐานการบริการบนเครื่อง รวมถึงวัฒนธรรมองค์กรของ Emirates (เช่น ค่านิยม Service Excellence) การแสดงความรู้เหล่านี้ออกมาอย่างแนบเนียนระหว่างการสัมภาษณ์ (เช่น ระบุว่าชื่นชมคุณภาพบริการของ Emirates ที่ได้รับรางวัล Skytrax หรือพูดถึงความตื่นเต้นที่จะได้ทำงานบนเครื่อง A380 ซึ่งเป็นเครื่องใหญ่ของสายการบิน) จะช่วยสร้างความประทับใจว่าผู้สมัครมี แรงจูงใจและตั้งใจจริง ที่จะร่วมงานกับ Emirates
เตรียมความพร้อมด้านร่างกายและจิตใจ: ก่อนถึงวันสัมภาษณ์ พักผ่อนให้เพียงพอ ดูแลสุขภาพร่างกายให้สมบูรณ์ เพราะวัน Assessment Day มักจะเริ่มแต่เช้าและดำเนินไปหลายชั่วโมงจนถึงบ่ายหรือเย็น ผู้สมัครต้องใช้พลังงานและสมาธิอย่างมาก ควรรับประทานอาหารเช้า และพกของว่างหรือขนมที่ให้พลังงานติดตัวไปทานระหว่างวันได้ ส่วนด้านจิตใจ ให้กำลังใจตัวเองคิดบวกเข้าไว้ หากรู้สึกตื่นเต้นให้หายใจลึกๆ และยิ้มเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด ความมั่นใจและความสดใสที่แสดงออกมาภายนอกจะช่วยเสริมให้บุคลิกภาพโดดเด่นและทำให้กรรมการประทับใจ
4. รายละเอียดเงินเดือนและสวัสดิการลูกเรือ Emirates
สายการบิน Emirates ขึ้นชื่อว่าให้ค่าตอบแทนและสวัสดิการลูกเรือที่ดีมากเป็นอันดับต้นๆ ของอุตสาหกรรมการบิน โดยแบ่งออกได้ดังนี้:
ช่วงฝึกอบรมที่ดูไบ
เมื่อได้รับการจ้างงานแล้ว ผู้สมัครจะเดินทางไปยังศูนย์ฝึกอบรมลูกเรือของ Emirates ที่ดูไบเพื่อเข้าโปรแกรมฝึกอบรมเข้มข้นเป็นเวลา ประมาณ 7-8 สัปดาห์ ในช่วงที่ฝึกอบรมนี้ ลูกเรือใหม่จะยังไม่ได้ปฏิบัติการบิน จึงยังไม่มีค่าชั่วโมงบินหรือเบี้ยเลี้ยง การตอบแทนที่ได้รับจะอยู่ในรูปของ เงินเดือนฝึกอบรม/ค่าเบี้ยเลี้ยงระหว่างอบรม ซึ่ง ไม่ได้สูงมาก โดยประมาณอยู่ที่ เดือนละ ~2,000 เดอร์แฮมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (AED) (คิดเป็นเงินไทยราว 18,000-20,000 บาท) เพื่อใช้จ่ายส่วนตัวเล็กน้อยระหว่างการฝึก อย่างไรก็ดี ที่พักและการเดินทาง ตลอดช่วงฝึกนั้นทางสายการบินจัดเตรียมให้ฟรีทั้งหมด ผู้เข้าฝึกจะได้พักในที่พักลูกเรือของ Emirates ในดูไบ (พักร่วมกับเพื่อนร่วมห้อง ซึ่งทางสายการบินจัดให้) โดย ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่พักหรือค่าน้ำไฟ และมี รถรับส่งของบริษัท รับส่งระหว่างที่พักกับศูนย์ฝึกอบรมทุกวัน นอกจากนี้ ยูนิฟอร์มและอุปกรณ์การฝึกทั้งหมดทางสายการบินก็จัดหาให้ฟรี ในช่วงฝึกอบรมนี้ลูกเรือใหม่จะได้เรียนรู้ทั้งด้านความปลอดภัย การบริการ และมาตรฐานต่างๆ อย่างเข้มข้น (มีการสอบและต้องผ่านตามเกณฑ์ทุกหัวข้อ) หากไม่ผ่านการทดสอบใดๆ ก็อาจไม่ได้ไปต่อจนจบโปรแกรม ดังนั้นผู้เข้าฝึกจึงต้องตั้งใจเต็มที่ หมายเหตุ: ช่วงฝึกอบรมนี้ถือเป็นช่วงทดลองงานด้วย หากผู้ฝึกสละสิทธิ์ลาออกกลางคันภายในสัญญา 6 เดือนแรก อาจต้องชดใช้ค่าใช้จ่ายที่สายการบินออกให้บางส่วน เช่น ค่าวีซ่า ค่าตั๋วเครื่องบิน เป็นต้น (ตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างงาน) แต่หากผ่านการฝึกอบรมจนจบ ผู้ฝึกจะเข้าพิธี ปักปีก และกลายเป็นลูกเรือ Emirates อย่างเต็มตัว พร้อมเริ่มปฏิบัติหน้าที่บนเที่ยวบินจริงต่อไป
หลังผ่านการฝึกอบรมและเริ่มบิน
เมื่อลูกเรือใหม่เริ่มปฏิบัติงานบิน เงินเดือนจะประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ เงินเดือนพื้นฐาน + ค่าชั่วโมงบิน + ค่าเบี้ยเลี้ยงระหว่างที่พักต่างประเทศ (Layover) โดยมีรายละเอียดดังนี้:
เงินเดือนพื้นฐาน: เริ่มต้นที่ประมาณ 4,980 AED ต่อเดือน สำหรับตำแหน่ง Grade II (ลูกเรือชั้นประหยัด) ซึ่งเงินเดือนส่วนนี้เป็น เงินเดือนคงที่ ที่ได้รับประจำทุกเดือนไม่ว่าจะมีบินหรือไม่ (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 45,000-50,000 บาท)
ค่าชั่วโมงบิน: คิดตามจำนวนชั่วโมงบินที่ปฏิบัติจริงในแต่ละเดือน อัตราชั่วโมงบินของลูกเรือชั้นประหยัดอยู่ที่ประมาณ 69.6 AED ต่อชั่วโมงบิน ซึ่งโดยปกติลูกเรือจะมีชั่วโมงบินประมาณ 80-100 ชั่วโมงต่อเดือน เมื่อนำมาคำนวณรวมกับเงินเดือนพื้นฐานแล้ว รายได้เฉลี่ยต่อเดือนจะอยู่ราวๆ 11,000+ AED(ประมาณ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 90,000100,000 บาทต่อเดือน แบบปลอดภาษี)ทั้งนี้รายได้ต่อเดือนจริงอาจมากหรือน้อยกว่าเล็กน้อยขึ้นกับชั่วโมงบินจริงของเดือนนั้นๆ
ค่าเบี้ยเลี้ยงระหว่างเที่ยวบิน (Meal Allowance):
ทุกครั้งที่ลูกเรือมีการเดินทางไปพักค้างคืนที่ต่างประเทศ (layover) สายการบินจะจัดที่พักโรงแรมและรถรับส่งสนามบินให้ฟรี พร้อมทั้งจ่ายเบี้ยเลี้ยงค่าอาหารเป็นรายประเทศ ตามอัตราค่าครองชีพของเมืองนั้นๆ ให้แก่ลูกเรือเพิ่มเติมด้วย เบี้ยเลี้ยงนี้จะแยกจ่ายต่างหากเป็นสกุลเงินท้องถิ่นของประเทศที่ไป และโดยมาก เพียงพอกับค่าอาหารตลอดช่วงที่พัก (หากบริหารดีๆ ลูกเรือสามารถเก็บออมจากส่วนนี้ได้อีก) โดยเบี้ยเลี้ยงที่ใช้ไปแต่ละเที่ยวบินจะถูกสรุปจ่ายรวมกับเงินเดือนรอบถัดไปเป็นแบบเดือนต่อเดือน ยกตัวอย่าง: หากบินมาเชียงใหม่หรือลอนดอน ลูกเรือก็จะได้เงินเบี้ยเลี้ยงตามอัตราที่กำหนดของเมืองนั้นๆ ทั้งนี้ โรงแรมที่พักในต่างประเทศที่ Emirates จัดให้นั้นเป็นโรงแรมมาตรฐานระดับ 4-5 ดาว (เช่น Marriott, Hilton, Sheraton ฯลฯ) ลูกเรือจะได้นอนห้องเดี่ยวของตนเอง และมีรถบัสของโรงแรมรับ-ส่งระหว่างสนามบินกับโรงแรม รวมถึงบางแห่งมีรถรับส่งพนักงานเข้าเมืองตามตารางเวลาให้ด้วย
จากโครงสร้างรายได้ข้างต้น จะเห็นได้ว่า ลูกเรือ Emirates มีรายได้ค่อนข้างสูงและได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ (เนื่องจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไม่มีการเก็บภาษีรายได้บุคคลธรรมดา) นอกจากนี้เมื่อมีอายุงานมากขึ้น เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น (เช่น ได้บินในชั้นธุรกิจหรือชั้นหนึ่ง เป็น Senior หรือ Purser) อัตราเงินเดือนและค่าชั่วโมงบินก็จะเพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ ทำให้รายได้โดยรวมเพิ่มขึ้นไปอีก
สวัสดิการอื่นๆ: นอกเหนือจากเงินเดือนแล้ว Emirates ยังมีสวัสดิการที่โดดเด่นหลายประการให้แก่ลูกเรือ ดังนี้:
ที่พักฟรีในดูไบ: ลูกเรือทุกคนจะได้รับที่พักอาศัยที่ดูไบโดย ไม่ต้องเสียค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ สายการบินจัดหาอพาร์ตเมนต์ตกแต่งพร้อมอยู่ให้ โดยมักเป็นการพักแบบแชร์อพาร์ตเมนต์ 2-3 ห้องนอนกับเพื่อนลูกเรือ (เพศเดียวกัน) โดยแต่ละคนมีห้องนอนส่วนตัว และอาจแชร์ห้องน้ำกับรูมเมท 1 คน (ในบางยูนิตที่เป็น 3 ห้องนอน) ที่พักของ Emirates ขึ้นชื่อว่ามีคุณภาพดี สะดวกสบาย บางแห่งอยู่ในตัวเมืองใกล้แหล่งช้อปปิ้ง บางแห่งอยู่ชานเมืองที่เงียบสงบ (ทางสายการบินจะสุ่มจัดสรรให้ตามความเหมาะสม) และหลังจากผ่านช่วงทดลองงานไปแล้ว ลูกเรือสามารถยื่นคำร้องขอเปลี่ยนอพาร์ตเมนต์หรือขอย้ายไปอยู่กับเพื่อนที่สนิทกันได้ตามความสมัครใจ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย หอพักของ Emirates มีกฎห้ามบุคคลภายนอกเข้าพักเกินเวลา 01.00 น. ยกเว้นเป็นลูกเรือ Emirates ด้วยกัน และอนุญาตให้ญาติใกล้ชิดมาเยี่ยมพักได้ครั้งละไม่เกิน 30 วัน ปีละสองครั้งตามระเบียบบริษัท
รถรับส่งและการเดินทาง: ที่ดูไบ มีรถบัสของบริษัทบริการรับ-ส่งฟรี สำหรับลูกเรือทั้งไป-กลับระหว่างที่พักและสนามบินเวลามีไฟลท์ รวมถึงรับส่งไป-กลับศูนย์ฝึกอบรมเวลามีการอบรมหรือประชุมตามตารางด้วย ลูกเรือจึงไม่ต้องกังวลค่าเดินทางไปทำงาน นอกจากนี้ ตั๋วเครื่องบินเที่ยวไปดูไบครั้งแรก ตอนไปรายงานตัว รวมถึง ตั๋วเครื่องบินเที่ยวกลับประเทศไทยเมื่อสิ้นสุดสัญญาการทำงาน ก็ออกให้ฟรีโดย Emirates
เครื่องแบบพนักงาน: ชุดยูนิฟอร์มของ Emirates จัดให้ฟรีทั้งหมด พร้อมทั้งมีบริการ ซักแห้ง/ซักรีดชุดยูนิฟอร์มให้ฟรี ตลอดอายุงาน ลูกเรือจึงดูแลรักษาชุดได้อย่างสะดวกสบายและประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนนี้
ประกันสุขภาพและการรักษาพยาบาล: ลูกเรือ Emirates ทุกคนได้รับความคุ้มครองด้านสุขภาพอย่างเต็มที่ สายการบินมี ประกันสุขภาพกลุ่ม ที่ครอบคลุมการรักษาพยาบาลและทันตกรรมตลอด 24 ชั่วโมงทั่วโลกให้กับลูกเรือทุกคน ที่ดูไบเองก็มี คลินิก Emirates สำหรับให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไปและดูแลสุขภาพฟันฟรีแก่พนักงานโดยเฉพาะ เมื่อลูกเรือต้องไปปฏิบัติงานต่างประเทศแล้วเกิดเจ็บป่วย ก็สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตามเมืองที่ไปเยือนได้ โดยค่าใช้จ่ายครอบคลุมตามวงเงินประกัน นอกจากนี้บริษัทยังมี ประกันชีวิตและประกันอุบัติเหตุ ให้พนักงานทุกคนกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝันอีกด้วย
วันหยุดประจำปีและตั๋วโดยสารประจำปี: ลูกเรือ Emirates จะได้รับสิทธิ์วันหยุดพักผ่อนประจำปี 30 วันต่อปี (คิดเป็นประมาณ 2.5 วันต่อเดือนที่สะสมไปเรื่อยๆ) สามารถเลือกลาพักร้อนได้เมื่อสะสมวันหยุดเพียงพอ นอกจากนี้หลังทำงานครบ 1 ปี ลูกเรือมีสิทธิ์ได้รับ ตั๋วเครื่องบินไป-กลับฟรี 1 ครั้งต่อปี เพื่อเดินทางกลับประเทศบ้านเกิดหรือจุดหมายใดก็ได้ในเครือข่ายเส้นทางบินของ Emirates (ในปีแรกจะได้รับตั๋วกลับประเทศบ้านเกิด และหลังจากทำงานครบ 3 ปี สามารถเลือกเปลี่ยนตั๋วปีนั้นไปประเทศอื่นในเครือข่ายแทนได้) ตั๋วฟรีนี้สามารถเลือกใช้ในชั้นประหยัดหรือธุรกิจตามสิทธิ์ที่บริษัทกำหนด และสามารถแบ่งใช้ให้คนในครอบครัวได้ตามเงื่อนไข
สิทธิ์บัตรโดยสารพนักงาน (Staff Travel): ลูกเรือและครอบครัวใกล้ชิดจะได้รับสิทธิ์ในการซื้อตั๋วเครื่องบินของ Emirates (รวมถึงสายการบินพันธมิตรอื่นๆ ทั่วโลกในบางกรณี) ในราคาพนักงานที่มีส่วนลดสูงมาก หรือที่เรียกว่า ID Ticket ซึ่งบางครั้งลดถึง 90% จากราคาปกติ ทำให้ลูกเรือสามารถเดินทางท่องเที่ยวส่วนตัวได้บ่อยครั้งในราคาประหยัด นอกจากนี้ยังสามารถใช้สิทธิตั๋วพนักงานให้เพื่อนหรือญาติได้ตามเงื่อนไขของบริษัทอีกด้วย
เงินบำเหน็จเมื่อสิ้นสุดการทำงาน: Emirates มี เงินสะสมกองทุนชดเชยการทำงาน หรือ End of Service Benefit (คล้ายเงินบำเหน็จ) ให้กับลูกเรือทุกคนเมื่อสิ้นสุดสัญญาจ้างหรือลาออก โดยคำนวณเป็นเงินก้อนตามระยะเวลาการทำงานและฐานเงินเดือนสุดท้ายของพนักงาน ยิ่งทำงานนานเงินก้อนนี้ก็จะมากขึ้น ถือเป็นสวัสดิการเพื่อความมั่นคงในอนาคตของพนักงาน
โบนัสประจำปี: ทั้งนี้ โบนัส จะไม่ได้การันตีทุกปี แต่ ขึ้นอยู่กับผลประกอบการ ของสายการบินแต่ละปี หากปีใด Emirates มีกำไรดี ลูกเรือก็มีโอกาสได้โบนัสพิเศษ ซึ่งอาจอยู่ในรูปเงินจำนวนเทียบเท่า 2-5 สัปดาห์ของเงินเดือน หรือบางปีสูงถึง ~โบนัส 13 เดือน (ประมาณ 8-10% ของเงินเดือนรายปี) ตามประกาศของบริษัท เช่น ปีที่ผ่านมาหลังอุตสาหกรรมการบินฟื้นตัว Emirates เคยประกาศให้โบนัสพนักงานเป็นจำนวน 6 สัปดาห์ของเงินเดือนเลยทีเดียว
สรุปภาพรวมรายได้: ลูกเรือใหม่ของ Emirates โดยเฉลี่ยจะมีรายได้ต่อเดือนประมาณ 80,000-100,000 บาท (หลังผ่านการฝึกอบรม) ซึ่งเป็นรายได้ ปลอดภาษีพร้อมด้วยสวัสดิการที่ครอบคลุมทั้งที่พักอาศัย การเดินทาง ประกันสุขภาพ ตั๋วโดยสารสำหรับตนเองและครอบครัว ฯลฯ ทำให้อาชีพลูกเรือ Emirates เป็นที่ดึงดูดใจของผู้สมัครทั่วโลก อย่างไรก็ตาม งานนี้ก็มีความท้าทาย เช่น ตารางการบินที่ไม่แน่นอน (บินข้ามคืน ข้ามเขตเวลา) ต้องปรับตัวกับอาการเจ็ตแล็กและทำงานเป็นกะ รวมถึงการอยู่ห่างบ้านเกิดเป็นเวลานานๆ แต่สำหรับหลายคนแล้ว ผลตอบแทนและประสบการณ์ท่องโลกที่ได้รับนั้นคุ้มค่าอย่างยิ่งกับความทุ่มเทในการทำงานหากผู้สมัครชาวไทยคนใดมีความฝันอยากบินกับ Emirates ก็ควรเตรียมความพร้อมให้ดีที่สุดตามคำแนะนำข้างต้น และลองสมัครดูสักครั้ง ฟ้าใหม่รออยู่ตรงหน้า แล้วพบกันบนเครื่อง Emirates!


